สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญใน สอ. ในช่วงวันที่ 16 - 30 พ.ย. 2565

สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญใน สอ. ในช่วงวันที่ 16 - 30 พ.ย. 2565

วันที่นำเข้าข้อมูล 9 ธ.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 9 ธ.ค. 2565

| 3,520 view

๑. ความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของ สอ.
    ๑.๑ อสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลการสำรวจราคาบ้านพักอาศัยที่มีการซื้อขายโดยบริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์ของ สอ. จำนวน ๒๐ รายระหว่างวันที่ ๘ - ๒๔ พ.ย. ๖๕ จัดทำโดย Royal Institution of Chartered Surveyors พบว่าภาพรวมของราคาบ้านพักใน สอ. ในปีนี้มีแนวโน้มปรับขึ้นร้อยละ ๖.๓ อย่างไรก็ดี ในเดือน ต.ค. ๖๕ ราคาบ้านพักได้ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ ๒๘ เดือน จึงเป็นสัญญาณของช่วงขาลงพร้อมกับแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงได้ในปีหน้าประมาณร้อยละ ๔.๗ แต่ยังไม่รุนแรงที่จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทรุดตัวท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพ[1] ในขณะที่ Office for Budget Responsibility (OBR) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ประเมินผลกระทบจากนโยบายการคลังของ รบ. สอ.คาดการณ์ว่าราคาบ้านของ สอ. จะปรับตัวลดลงร้อยละ ๙ ในช่วงไตรมาสที่ ๔ ของปีนี้จนถึงไตรมาสที่ ๓ ของปี ๒๕๖๗ เนื่องจากปัจจัยต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นและภาวะ ศก. ถดถอย แต่ในปี ๒๕๖๘ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกครั้งประมาณร้อยละ ๒.๖ จากภาวะ ศก. ที่ฟื้นตัวดีขึ้น[2]
   ๑.๒ อาหาร บ. Danish Crown บริษัทผลิตเนื้อสัตว์ชั้นนำของยุโรป ประกาศแผนสร้างโรงงานผลิตเบคอนและแกมมอน (gammon) ในเขต Rochdale ทางเหนือของเมืองแมนเชสเตอร์มูลค่า ๑๐๐ ล้านปอนด์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าและจะทำให้เกิดการจ้างงานใน สอ. มากกว่า ๓๐๐ ตำแหน่ง โดยบริษัทเชื่อมั่นว่า สอ. ยังคงเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่สำคัญในอนาคต โดยเฉพาะในส่วนของการนำเข้าเบคอนมาจากเดนมาร์กซึ่งมีมูลค่าประมาณ ๖๐๐ ล้านปอนด์/ปี และจะช่วยรักษาความได้เปรียบทางด้านห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ของบริษัทโดยช่วยลดต้นทุน ขั้นตอนด้านเอกสารและพิธีการศุลกากรเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าเนื้อสัตว์หลัง Brexit จากเดนมาร์กมายัง สอ. ได้ด้วย เพื่อรับมือกับอุปสงค์ที่กำลังเพิ่มขึ้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมเนื้อเบคอนและไส้กรอกมากขึ้นเนื่องจากราคาถูกกว่าในช่วงค่าครองชีพสูง นอกจากนี้ ยังสะท้อนว่า ผลกระทบจาก Brexit ส่งผลให้การค้า ตปท. มีต้นทุนเพิ่มขึ้นและยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ
   อนึ่ง ข้อมูลผู้บริโภคของ บ. Kantar พบว่า ผู้บริโภคของ สอ. บริโภคเบคอนมากกว่า ๓ กก. /คน/ปี ถือเป็นปริมาณสูงที่สุดในยุโรป นอกจากนี้ องค์กร Agriculture and Horticulture Development Board (AHDB) ให้ข้อมูลว่า ในปีนี้ สอ. นำเข้าเบคอนเพิ่มขึ้นสูงเทียบเท่าช่วงก่อนวิกฤตโควิด-๑๙ อีกครั้ง โดยในช่วง ๙ เดือนแรกของปี สอ. นำเข้าเบคอนในปริมาณ ๑๕๑,๐๐๐ ตัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่าร้อยละ ๒๕ โดยมีปัจจัยจากการสิ้นสุดมาตรการควบคุมโควิด-๑๙ ทำให้ ปชช. กลับมารับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น[3]
   ๑.๓ การบิน แม้ว่าภาวะเงินเฟ้อและปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยกดดันให้ภาคครัวเรือนมีแนวโน้มใช้จ่ายลดลง แต่สายการบิน EasyJet ประเมินว่าอุปสงค์ความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวของชาวบริติชในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีจะยังอยู่ในระดับสูง โดยข้อมูลยอดขายบัตรโดยสารของบริษัทพบว่าในช่วงการปิดภาคเรียนในเดือน ต.ค. (half term) ที่ผ่านมา และยอดการจองช่วงวันหยุดเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่นี้ปรับขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน ในขณะที่ยอดขายบัตรฯ ในช่วงนอกเทศกาลวันหยุดยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงปกติ นอกจากนี้ จากการสำรวจ ปชช. จำนวน ๒,๐๐๐ คน จัดทำโดยสายการบิน EasyJet พบว่า ร้อยละ ๖๔ วางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในปีหน้า และร้อยละ ๗๐ ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเป็นอันดับแรกเหนือการใช้จ่ายด้านอื่น ๆ จึงสะท้อนว่าผู้บริโภค สอ. ให้ความสำคัญกับรายจ่ายด้านการท่องเที่ยวเป็นลำดับต้น ๆ แต่หันมาสนใจบริการของสายการบินราคาประหยัดมากขึ้นในภาวะปัจจุบัน[4]
  ๑.๔ อุตสาหกรรมรถยนต์ บ. Jaguar Land Rover (JLR) ให้ข้อมูลว่าบริษัทมียอดการจองรถในเดือน พ.ย. ๖๕ มากกว่า ๒๐๕,๐๐๐ คัน แต่จำเป็นต้องประกาศแผนลดจำนวนการผลิตที่ศูนย์การผลิตทั่ว สอ. โดยมีผลทันทีจนถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีหน้าเนื่องจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน semiconductor ที่ยังไม่ฟื้นตัวนับตั้งแต่วิกฤตโควิด-๑๙ และยังคงส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างต่อเนื่อง กอปรกับคาดว่าจะมีอุปสงค์ลดลงในช่วงวิกฤตค่าครองชีพและช่วงภาวะ ศก. ถดถอยที่ สอ. กำลังเผชิญอยู่นี้ อย่างไรก็ดี JLR ประเมินว่าในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าสถานการณ์ข้อจำกัดต่าง ๆ ทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทานจะคลี่คลายลง โดยบริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับผู้ผลิต semiconductor ในสหรัฐฯ (Wolfspeed) ในการจัดส่งชิ้นส่วนดังกล่าวตั้งแต่ครึ่งหลังของปีหน้าเป็นต้นไปแล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ของ สอ. (Society of Motor Manufactures and Traders – SMMT) พบว่า ยอดการผลิตรถยนต์ของ สอ. ในเดือน ต.ค. ๖๕ มีจำนวน ๖๙,๕๒๔ คัน ลดลงร้อยละประมาณ ๔๘ เมื่อเทียบกับยอดการผลิตรถยนต์ในช่วงก่อนวิกฤตโควิด-๑๙ แต่ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณร้อยละ ๗[5]

๒. ด้านนโยบายต่าง ๆ ของ รบ. สอ.
    เมื่อวันที่ ๒๔ พ.ย. ๖๕ รบ. สอ. โดยนาย Oliver Dowden ตำแหน่ง Chancellor of the Duchy of Lancaster (เทียบเท่า รมต. ประจำ สนง.ฯ) ได้แถลงนโยบายห้ามไม่ให้หน่วยงานของรัฐติดตั้งอุปกรณ์ระบบกล้องวงจรปิดสังเกตการณ์ (surveillance systems) ที่ผลิตโดยบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ กม. ข่าวกรองแห่งชาติของจีนในพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อน และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการติดตั้งอุปกรณ์เดิมที่เข้าข่ายดังกล่าวเข้ากับระบบหลักของหน่วยงาน ตลอดจนกำหนดแผนการเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เหมาะสมต่อไปด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงจุดบกพร่องในด้านความมั่นคงปลอดภัย[6] โดยก่อนหน้านี้ ก. สาธารณสุขและบริการสังคม (Department of Health and Social Care - DHSC) ได้ยกเลิกการซื้อกล้องวงจรปิดจาก บ. Hikvision ซึ่งเป็นบริษัทผลิตระบบกล้องวงจรปิดรายใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงยกเลิกการใช้งานอุปกรณ์กล้องที่ติดตั้งเรียบร้อยแล้วจำนวน ๘๒ เครื่องด้วย
    ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นผลจากการผลักดันของกลุ่มสมาชิกรัฐสภา สอ. จำนวนหนึ่งที่เสนอให้ สอ. ห้ามการจำหน่ายอุปกรณ์ของบ. Hikvision และ บ. Dahua ทั้งหมดใน สอ. ด้วยเหตุผลที่บริษัททั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชนกลุ่มน้อยในซินเจียง แต่ บ. Hikvision ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในเขตซินเจียง และยืนยันว่าบริษัทจำหน่ายเฉพาะอุปกรณ์เท่านั้นและไม่ได้เป็นผู้ดูแลระบบการใช้งานภายหลังการติดตั้งแล้ว[7] นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวสะท้อนว่า คสพ. ด้านการค้า สอ. กับจีนน่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบในระยะต่อไป

๓. ทิศทางเศรษฐกิจของ สอ.
    ๓.๑ รบ. สอ. มองว่าปัจจัยค่าครองชีพสูงเป็นอุปสรรคสำคัญหลักต่อการฟื้นตัวของ ศก. และเป็นข้อจำกัดในการดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหา ศก. ที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ด้วยปัจจัยภายนอก สอ. กอปรกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงในหลายประเทศทำให้แนวโน้มค่าครองชีพพื้นฐานใน สอ. ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง[8] โดยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคจัดทำโดยสมาคมผู้ค้าปลีก (British Retail Consortium - BRC)[9] พบว่าราคาอาหารของ สอ. ในเดือน พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดใน ปวศ. ที่ร้อยละ ๑๒.๔ จากร้อยละ ๑๑.๖ ในเดือน ต.ค. ในขณะที่ราคาอาหารสดปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๔.๓ จากเดิม ร้อยละ ๑๓.๓ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าราคาของอาหารและสินค้าจำเป็นที่ปรับตัวสูงขึ้นนี้ยิ่งส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นใน สอ. เนื่องจากภาคครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งสวนทางกับนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของ รบ. สอ. และสอดคล้องกับข้อมูลการสำรวจจัดทำโดย สนง. สถิติแห่งชาติของ สอ. (Office for National Statistics – ONS) ในช่วงสองสัปดาห์จนถึงวันที่ ๒๐ พ.ย. ๖๕ ที่พบว่าปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบมากที่สุดต่อภาคครัวเรือนที่อาศัยในพื้นที่ที่ขาดแคลนมากที่สุด (most deprived areas) ของอังกฤษ โดย ปชช. ที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวจำนวนร้อยละ ๕๘ จำเป็นต้องลดการใช้จ่ายด้านอาหารและของใช้ที่จำเป็นลง ในขณะที่ ปชช. ที่อาศัยในพื้นที่ที่ร่ำรวยที่สุด (most affluent areas) ของอังกฤษเพียงร้อยละ ๒ ประสบปัญหาในการจ่ายค่าสาธารณูปโภค[10]
    อนึ่ง ONS ใช้ Index of Multiple Deprivation (IMD)[11] เป็นเครื่องมือในการวัดระดับและแบ่งเขตพื้นที่ที่ขาดแคลนโดยวัดจากปัจจัยด้านรายได้ การศึกษา สุขอนามัย และอาชญากรรม โดยพบว่ามีเขตพื้นที่ขาดแคลนมากที่สุดหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วเมืองแมนเชสเตอร์ ลิเวอร์พูล ฮอล์ (Hull) และกรุงลอนดอน
    ๓.๒ ปัญหา ศก. ที่ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้นได้ส่งผลให้เกิดความไม่พึงพอใจมากขึ้นและเกิดการรวมตัวกันหยุดงานเพื่อประท้วงเรียกร้องการขึ้นค่าแรงในภาคบริการสาธารณะหลายส่วนอย่างต่อเนื่องใน สอ. ซึ่งสร้างความชะงักงันต่อวิถีชีวิตประจำวันและย่อมส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตของ ศก. สอ. มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกขณะ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า พนง. จากหลายบริษัท/องค์กรได้ประกาศแผนหยุดงานประท้วงเพิ่มเติมในช่วงเดือน ธ.ค. ได้แก่ พยาบาลจาก ร.พ. และหน่วยงานสาธารณสุข (NHS) ราว ๗๖ แห่งทั่ว สอ. มีกำหนดนัดหยุดงานประท้วงในวันที่ ๑๕ และ ๒๐ ธ.ค. ศกนี้ / พนง. ของ บ. Royal Mail จำนวนประมาณ ๑๑๕,๐๐๐ คน มีแผนหยุดงานประท้วงในวันที่ ๓๐ พ.ย. และ ๑, ๙, ๑๑, ๑๔, ๑๕, ๒๓ และ ๒๔ ธ.ค. / พนง. ของ บ. รถไฟของ สอ. จำนวน ๑๔ แห่ง จำนวนมากกว่า ๔๐,๐๐๐ คน มีแผนหยุดงานประท้วงในวันที่ ๑๓-๑๔ และ ๑๖-๑๗ ธ.ค. ๖๕ และ ๓-๔  และ ๖-๗ ม.ค. ๖๖ ซึ่งคาดว่าการหยุดงานประท้วงอย่างต่อเนื่องดังกล่าวจะก่อผลเสียต่อ ปชช. ทั่วไป และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างมาก โดยเฉพาะภาคการบริการ (hospitality) ซึ่งเป็นจุดเด่นของ สอ. โดยสมาคม UKHospitality ประเมินว่าการหยุดงานประท้วงของ พนง. ขนส่งสาธารณะจะทำให้ภาคธุรกิจ hospitality สูญเสียรายได้มูลค่า ๑.๕ พันล้านปอนด์ในช่วงเทศกาลสำคัญของปี สะท้อนจากในช่วงที่ผ่านมาที่มีบริษัทหลายแห่งได้แจ้งร้านอาหาร โรงแรม หรือผับเพื่อขอยกเลิกการจัดงานสังสรรค์แล้ว เป็นต้น[12]
    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๒๒ พ.ย. ๖๕ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ได้แถลงประมาณการ ศก. ของประเทศสมาชิก โดยคาดว่า ศก. สอ. อาจขยายตัวร้อยละ ๔.๔ ในปีนี้ แต่จะหดตัวร้อยละ -๐.๔ ในปีหน้า ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นร้อยละ ๐.๒ ในปี ๒๕๖๗ ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่ม G7[13]



[1] https://www.reuters.com/world/uk/uk-house-price-rally-end-next-year-no-big-crash-expected-2022-11-25/
[2] https://obr.uk/docs/dlm_uploads/CCS0822661240-002_CCS001_SECURE_OBR_EFO_November_2022_BOOKMARK.pdf
[3] https://www.ft.com/content/8c9fc0ce-4315-4f5c-9825-05d39f51abf2
[4] https://www.bbc.co.uk/news/business-63791613
[5] https://www.theguardian.com/business/2022/nov/25/carmaker-jlr-reducing-its-production-at-uk-factories-until-spring
[6] https://questions-statements.parliament.uk/written-statements/detail/2022-11-24/hcws386
[7] https://www.ft.com/content/abdc8265-7188-4d59-ab62-596416bc76cb
[8] https://www.bbc.co.uk/news/business-12196322
[9] https://www.ft.com/content/c0992ca9-0a5f-4264-b122-654086e8cb75
[10] https://www.theguardian.com/business/2022/nov/25/cost-of-living-crisis-hitting-england-most-deprived-area-hardest-spending-less-food-ons-survey
[11] https://www.gov.uk/government/collections/english-indices-of-deprivation
[12] https://www.ukhospitality.org.uk/news/624328/STRIKE-RESOLUTION-NEEDED-AS-HOSPITALITY-SET-TO-LOSE-1.5-BILLION.htm
[13] https://www.theguardian.com/business/2022/nov/22/uk-growth-oecd-energy-crisis