นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังย้ำความเชื่อมั่นต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจไทยในการสัมมนาออนไลน์ของสถาบัน Asia House

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังย้ำความเชื่อมั่นต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจไทยในการสัมมนาออนไลน์ของสถาบัน Asia House

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 มี.ค. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 1,113 view

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังย้ำความเชื่อมั่นต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจไทยในการสัมมนาออนไลน์ของสถาบัน Asia House 

messageImage_1615243227581

    เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้บรรยายเกี่ยวกับภูมิทัศน์และนโยบายด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในการสัมมนาออนไลน์ (Private Virtual Roundtable) ของสถาบัน Asia House ของสหราชอาณาจักร โดยมีบุคคลระดับนโยบายและผู้บริหารภาคเอกชนรายสำคัญของสหราชอาณาจักร เข้าร่วมจำนวนมาก

Asia_House_2

    ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังย้ำความเชื่อมั่นต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสามารถปรับตัวได้ดี โดยในภาพรวมเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณของการฟื้นตัว และพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังคงมีเสถียรภาพในทุกมิติ ความสำเร็จของไทยในการจัดการวิกฤตการแพร่ระบาดได้ดีเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก ทำให้สามารถผ่อนคลายข้อจำกัดและใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ภาคการก่อสร้าง การท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 2.8 ในปี 2564 และประมาณ 3-4 ในปี 2565

Asia_House_3
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับภาคเอกชนสหราชอาณาจักรและประเทศต่าง ๆ ทั้งโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การพัฒนาระบบขนส่งทางรางแบบความเร็วสูง และการขยายระบบขนส่งมวลชน ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคด้านเครือข่ายการคมนาคมที่เชื่อมโยงภูมิภาค ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังคงเน้นขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 โดยนำเทคโนโลยีมาเร่งยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 อุตสาหกรรม ภายใต้โครงการ Eastern Economic Corridor (EEC) และมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ Bio-Circular-Green (BCG) Model เพื่อให้สอดรับกับกระแสโลกและความยั่งยืน

    การสัมมนาดังกล่าวประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วม โดยผู้บริหารภาคเอกชนชั้นนำของสหราชอาณาจักร อาทิ Prudential, HSBC, Standard Chartered, Air Asia, Mandarin Oriental Group, De La Rue ได้แสดงความสนใจต่อโอกาสขยายหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับไทยและซักถามเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนภาคธุรกิจต่าง ๆ