1. บริษัทใน สอ. เริ่มหันมาเร่งกักตุนสินค้าและวัตถุดิบเนื่องจากแนวโน้มของ no-deal Brexit นอกจากนั้น หลายบริษัทประสบปัญหาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นจากค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า

2. ภาคธุรกิจการส่งออกเป็นส่วนที่ช่วยประคับประคอง ศก. สอ. ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา และยิ่งได้รับผลดีจากค่าเงินปอนด์ที่อ่อนลง อย่างไรก็ตาม ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองและ ศก. ในยุโรป เช่น การประท้วงของกลุ่ม “เสื้อกั๊กเหลือง” ในฝรั่งเศส และ Brexit เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการหดตัวของการส่งออก โดยพบว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 61 ดัชนีการส่งออกของ สอ. ปรับตัวลดลงอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี

3. บริษัท Jaguar Land Rover เตรียมแผนปลดพนักงานจำนวนเกือบ 5,000 ตำแหน่งในช่วงต้นปี 62 เนื่องจากผลกระทบจากปริมาณความต้องการรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลลดน้อยลง และผลกระทบจาก Brexit ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดการขาดทุนมาจากยอดขายรถยนต์ในจีนที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก ทั้งนี้ บริษัท Jaguar Land Rover มีการจ้างงานใน สอ. ทั้งหมด 40,000 ตำแหน่ง ในเดือน มิ.ย. 61 บริษัทฯ ได้ปลดพนักงานประจำศูนย์ผลิตที่เมือง Solihull จำนวน 1,000 ตำแหน่ง และเตรียมย้ายการผลิตรถยนต์รุ่น Discovery ไปยังสโลวาเกีย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับวันทำงานที่ศูนย์ผลิตรถยนต์เมือง Castle Bromwich ให้เหลือเพียง 3 วันต่อสัปดาห์

4. รายงานของบริษัท Price Waterhouse Cooper คาดว่า การออกจากการเป็นสมาชิกอียูของ สอ. จะทำให้ ศก. สอ. เติบโตเพียงร้อยละ 1.6 กลายเป็น ปท. ผู้นำทาง ศก. อันดับที่ 7 (ปัจจุบัน สอ. อยู่ในอันดับที่ 5) โดยมีอินเดียขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 5 แทน ในขณะที่ฝรั่งเศสยังครองอันดับ 6 เช่นเดิม ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่า สอ. และอียู สามารถหาข้อตกลง Brexit ร่วมกันได้

5. นักวิเคราะห์การตลาดระบุว่า ยอดขายวัน Boxing day ของ สอ. ตกลง 3 ปีซ้อน โดยผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอยลดลงร้อยละ 3.1 (ไม่รวมการค้าออนไลน์) แม้ราคาสินค้าจะลดโดยเฉลี่ยร้อยละ 52 อย่างไรก็ตาม ย่าน shopping ที่สำคัญของกรุงลอนดอนยังมีแรงสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเข้ามาซื้อสินค้าราว 5 แสนคน (เพิ่มจากเดิมร้อยละ 15 เป็นนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40) มีเงินสะพัดราว 50 ล้านปอนด์ อนึ่ง การจับจ่ายใช้สอยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีมากกว่าชาว สอ. ถึง 5 เท่า

 ข้อสังเกต

1. ศก. ของ สอ. ในไตรมาสที่ 4 อยู่ในสภาวะกดดันมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยความขัดแย้งภายในพรรค รบ. และ ส.ส. ในสภาที่ต่อต้านร่าง คตล. Brexit ของ นรม. May อย่างหนักตั้งแต่เดือน พ.ย. จนทำให้แนวโน้มของ no-deal Brexit กลับมาเพิ่มสูงอีกครั้ง ความไม่แน่นอนดังกล่าวนี้ ทำให้ภาคธุรกิจมีการปรับแผนองค์กรและเร่งเตรียมการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ no-deal Brexit เช่น การปลดพนักงาน และการกักตุนสินค้า และยารักษาโรคเพิ่มเติม เป็นต้น

2. นักท่องเที่ยวต่างชาติถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายใน ปท. ของ สอ. ได้มาก และยังเนื่องมาจากค่าเงินปอนด์ที่อ่อนตัวลง ยิ่งเป็นแรงสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อของได้มากขึ้น อนึ่ง ยอดขายที่ลดลงช่วง Boxing day อาจสืบเนื่องจากร้านค้าต่าง ๆ ได้ทยอยลดราคาสินค้า และมีการจับจ่ายกันไปก่อนหน้าในช่วง Black Friday ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. 61 แล้ว

3.นรม. May เลื่อนวันลงคะแนนเสียงของสภาสามัญเรื่องข้อตกลง Brexit ออกไปเป็นในช่วงกลางเดือน ม.ค. 62 อนาคต ศก. สอ. จะเป็นไปในทิศทางใดคงขึ้นอยู่กับ Brexit ว่าจะเกิดขึ้นในรูปแบบใด ทั้งนี้ ในวันคริสมาสต์สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มีพระราชดำรัสประจำปี และมีถ้อยคำให้ทุกฝ่ายให้ความเคารพซึ่งกันและกันท่ามกลางความเห็นที่แตกต่าง นอกจากนั้น นรม. เมย์ มีคำกล่าวอวยพรปีใหม่แก่ประชาชน และขอให้สนับสนุนข้อตกลง Brexit เพื่อให้ ปท. เดินต่อไปได้ และ รบ. จะได้ทุ่มเทกำลังไปทำงานพัฒนา ปท. ในด้านอื่น ๆ ได้อีกต่อไป