1. สนง. สถิติแห่งชาติของ สอ. ชี้ว่า ผลประกอบการของภาคธุรกิจค้าปลีกในเดือน มี.ค. 62 ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน มี.ค. 61 ร้อยละ 6.7 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ ต.ค. 59 โดยคาดว่าอากาศที่ค่อนข้างอุ่นเป็นปัจจัยกระตุ้นยอดขายดังกล่าว ซึ่งต่างจากในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ภาคธุรกิจค้าปลีกได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวจัด (Beast from the East) นอกจากนั้น พบว่าห้างสรรพสินค้าเป็นภาคค้าปลีกเดียวที่มียอดขายลดลงร้อยละ 0.3 ในเดือน มี.ค. 62 เทียบกับ มี.ค. 61 ในขณะที่ยอดการค้าแบบออนไลน์โดยรวมปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 18.6 จากเดิมในเดือน มี.ค. 62 เทียบกับร้อยละ 18.1 ในรายงานสถิติเดือน ก.พ. 62

2. สนง. สถิติแห่งชาติของ สอ. รายงานว่า ยอดการกู้ยืมเงินของ รบ. สอ. ประจำปี งปม. 61 – 62 มีมูลค่าทั้งหมด 24.7 พันล้านปอนด์ ลดลงจากปี งปม. 60 – 61  17.2 พันล้านปอนด์ หรือร้อยละ 41 ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในรอบ 17 ปี ทั้งนี้ สถิติการจ้างงานที่คงตัวอยู่ในระดับสูง และการปรับขึ้นค่าแรง เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ รบ. มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีเงินได้ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6)  

3. ห้าง Debenhams ประกาศแผนปิดสาขาจำนวน 22 สาขา ในต้นปี 63 จากทั้งหมด 166 สาขาทั่ว สอ. ทั้งนี้ คาดว่าการปิดสาขาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพนักงานจำนวนกว่า 1,200 คน

4. Boohoo และ Primark ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นราคาย่อมเยาของ สอ. รายงานผลประกอบการว่ามีผลกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 49 (ในช่วง ก.พ. 61 – ก.พ. 62) และ ร้อยละ 25 (ในช่วง ต.ค. 61 – มี.ค. 62) ตามลำดับ โดยบริษัท Boohoo ได้ผลกำไรเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อสินค้ายี่ห้อ PrettyLittleThing และ NastyGal ให้มารวมกับของตนเมื่อปีที่ผ่านมา และจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ในขณะที่ Primark เป็นแบรนด์ที่จำหน่ายในร้านเท่านั้น

ข้อสังเกต
จากสถิติของสำนักต่าง ๆ พบว่าแม้ธุรกิจค้าปลีกจะมียอดขายเพิ่มขึ้น และมีอัตราการเข้าร้านค้า (footfall) เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะเพิ่มการจับจ่ายตามไปด้วย แต่กลับยังคงระวังการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย และห้างสรรพสินค้าที่ได้รับผลกระทบมีการทยอยปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง อนึ่ง ธุรกิจการค้าออนไลน์ดูจะเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการอยู่รอดของร้านค้าปลีก และน่าจะเป็นช่องทางการทำตลาดที่ร้านค้าปลีกต้องหันมาพัฒนาการค้าออนไลน์ของตน