๑. ความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของ สอ.
    ๑.๑ รถยนต์ สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ของ สอ. (Society of Motor Manufacturers and Traders - SMMT) ให้ข้อมูลว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ของ สอ. ประจำเดือน มี.ค. ๖๕ (ซึ่งปกติจะเป็นเดือนที่มียอดสูงสุดของปี) มีเพียง ๒๔๓,๔๗๙ คัน ลดลงร้อยละ ๑๔ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ ๒๔ ปี (ตั้งแต่ปี ๒๕๓๑) จึงสะท้อนการหดตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากปัญหาขาดแคลนไมโครชิปทั่วโลกที่คาดว่าจะยืดเยื้อไปถึงปีหน้าเป็นอย่างน้อยและการได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่มีต่อภาคการขนส่งและระบบห่วงโซ่อุปทานชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ แต่แนวโน้มดังกล่าวทำให้มีผู้สนใจซื้อรถยนต์มือสองมากขึ้นโดย บ. Auto Trader เว็บไซต์ซื้อขายรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของ สอ. ให้ข้อมูลว่า รถยนต์มือสองที่มีอายุต่ำกว่า ๑ ปีบางรุ่นสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่ารถยนต์คันใหม่ในรุ่นเดียวกัน นอกจากนี้ นโยบายการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของ สอ. (รวมถึงในยุโรป) ส่งผลให้ตลาด EV ใน สอ. เริ่มเติบโตขึ้นแทน โดยยอดขายรถ EV ในเดือน มี.ค. ๖๕ มีจำนวน ๓๙,๓๑๕ คัน หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๖ ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าสภาพแวดล้อมของตลาดรถยนต์ในปัจจุบันจะเอื้อให้ยอดขายรถ EV ใน สอ. เพิ่มขึ้นมากกว่ายอดขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ภายในปี ๒๕๖๘ โดยเฉพาะจากปัจจัยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียด้วย[1] 
   ๑.๒ การบิน ภาคธุรกิจการบินเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นอีกครั้งหลังสิ้นสุดมาตรการควบคุมโควิด-๑๙ ใน สอ. โดยสนามบิน Heathrow ให้ข้อมูลว่า มีผู้ใช้บริการในเดือน มี.ค. ๖๕ จำนวนกว่า ๔.๒ ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ ๖๗๕ และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการในปีนี้ประมาณ ๔๕ ล้านคน (หรือประมาณร้อยละ ๕๐ ของจำนวนผู้ใช้บริการในช่วงก่อนวิกฤตโควิด) แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสายการบิน British Airways (BA) ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งภายใน ปท. และ ตปท. มากกว่า ๖๔ เส้นทาง และสายการบิน EasyJet ยกเลิกมากกว่า ๒๕ เส้นทาง นอกจากนี้ สนามบินสำคัญหลายแห่งของ สอ. โดยเฉพาะสนามบิน Heathrow และสนามบิน Manchester ประสบปัญหาความล่าช้าในการให้บริการสืบเนื่องจากการขาดแคลนพนักงานที่ต้องกักตัวที่บ้านจากการติดเชื้อโควิด อย่างไรก็ดี สนามบิน Heathrow ได้ประกาศแผนจ้างงานเพิ่มจำนวน ๑๒,๐๐๐ ตำแหน่ง เพื่อเตรียมรองรับปริมาณผู้ใช้บริการที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันหยุดฤดูร้อนนี้แล้ว[2]
    ๑.๓ อสังหาริมทรัพย์ บริษัทที่ปรึกษาด้านบัญชีขนาดใหญ่ของ สอ. หลายแห่ง เช่น บ. Deloitte / KPMG / BDO และ Grant Thornton ได้ปรับลดพื้นที่ สนง. ของตนอย่างต่อเนื่องในช่วงสองปีที่ผ่านมาหลังมีนโยบายให้ พนง. ส่วนใหญ่สามารถทำงานที่ สนง. สลับกับที่บ้านมากขึ้น (hybrid working) ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนด้านค่าเช่าและค่าบริหาร สนง. โดยล่าสุด บ. Deloitte ประกาศไม่ต่อสัญญาเช่า สนง. (ขนาด ๑๘๕,๐๐๐ ตารางฟุต) ในย่าน New Street Square ของกรุงลอนดอน ในเดือน พ.ค. ศกนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลของ นสพ. Financial Times ระบุว่า การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนทำให้มีผู้ทำงานใน สนง. ในเดือน ก.พ. ๖๕ ต่ำกว่าร้อยละ ๒๕ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโควิดที่มีผู้ใช้ สนง. ร้อยละ ๕๕ – ๖๐ จึงสะท้อนการลดลงของอุปสงค์การเช่าพื้นที่เพื่อเป็น สนง. แม้วิกฤตโควิด-๑๙ โดยรวมจะดีขึ้นแล้วก็ตาม อีกทั้งยังเป็นสัญญาณว่าโอกาสที่ธุรกิจให้เช่าอาคารพาณิชย์/ สนง. จะปรับตัวดีขึ้นน่าจะมีน้อยในระยะสั้นนี้[3]

๒. ด้านนโยบายต่าง ๆ ของ รบ. สอ.
    ๒.๑ นโยบายการเก็บภาษีบรรจุภัณฑ์พลาสติกทุกชนิดที่มีปริมาณพลาสติกรีไซเคิลน้อยกว่าร้อยละ ๓๐ (Plastic Packaging Tax; PPT) ของ รบ. สอ. เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ ๑ เม.ย. ๖๕ เป็นต้นไป โดยผู้ผลิตและผู้นำเข้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีการผลิตหรือนำเข้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกทุกชนิดมากกว่า ๑๐ ตันภายในระยะเวลา ๑๒ เดือนที่ผ่านมาหรือที่จะมีการผลิตหรือนำเข้าใน ๓๐ วันข้างหน้า จะต้องลงทะเบียนเพื่อเป็นผู้เสียภาษีดังกล่าว หากบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ผลิตหรือนำเข้ามีปริมาณพลาสติกรีไซเคิลมากกว่าร้อยละ ๓๐ จะไม่ต้องเสียภาษีดังกล่าว ส่วนบริษัทที่มีการผลิตหรือนำเข้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีปริมาณพลาสติกรีไซเคิลน้อยกว่าร้อยละ ๓๐ จะต้องจ่ายภาษีในอัตรา ๒๐๐ ปอนด์ต่อเมตริกตัน ทั้งนี้ รบ. สอ. มีวัตถุประสงค์ที่จะลดการใช้และการสร้างขยะพลาสติกเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ๒๕๙๓ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่านโยบายดังกล่าวอาจนำไปสู่การเพิ่มต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการและภาวะหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานได้ในกรณีที่วัสดุพลาสติกรีไซเคิลมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ[4]
    ๒.๒ เมื่อวันที่ ๔ เม.ย. ๖๕ กค. สอ. ประกาศมาตรการส่งเสริม สอ. ให้เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีและการลงทุนด้านสินทรัพย์คริปโท (Cryptoasset) โดยมีแผนออก stablecoins เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการชำระสินค้าและบริการ และร่วมมือกับ Royal Mint ในการออก Non - Fungible Token (NFT) นอกจากนี้ จะจัดตั้ง Financial Market Infrastructure Sandbox เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทดลองและพัฒนาธุรกิจคริบโทของภาคเอกชน และจัดตั้ง Cryptoasset Engagement Group ซึ่งเป็น คกก. ร่วมระดับสูงระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อหารือและกำหนดแนวทางการพัฒนาการลงทุนด้านสินทรัพย์คริปโทในอนาคต[5]
          อนึ่ง ในวันเดียวกันนาย John Glen ตำแหน่ง Economic Secretary to the Treasury (เทียบเท่า รมช. กค. สอ.) ได้กล่าวสุนทรพจน์ใน กปช. Finance Global Summit ปชส. ความก้าวหน้าดังกล่าวโดยย้ำว่า สอ. พร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรม Cryptocurrency และเตรียมออก กม. เพื่อปกป้องผู้บริโภคและป้องกันการฟอกเงิน รวมทั้งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบ Distributed Ledger Technology ในภาคการเงินซึ่งอาจรวมถึงการออกพันธบัตรรัฐบาลในอนาคตด้วย[6]
    ๒.๓ เมื่อวันที่ ๖ เม.ย. ๖๕ รบ. สอ. ประกาศแผน British Energy Security Strategy[7] ภายใต้ยุทธศาสตร์ Ten Point Plan for a Green Industrial Revolution[8] ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ลม นิวเคลียร์ แสงอาทิตย์ และไฮโดรเจน) และสนับสนุนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติภายในประเทศในอนาคตซึ่งจะทำให้ สอ. พึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้โดยร้อยละ ๙๕ ของพลังงานไฟฟ้าของ สอ. จะเป็นพลังงานคาร์บอนต่ำภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ ซึ่งสรุปสาระสำคัญเบื้องต้น ดังนี้
          พลังงานนิวเคลียร์ (ถือเป็นพลังงานที่ “recyclable”) – เพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ให้ได้มากถึง ๒๔ กิกะวัตต์ (คิดเป็นร้อยละ ๒๕ ของปริมาณการใช้งานใน สอ.) ภายในปี ค.ศ. ๒๐๕๐ โดย รบ.สอ. มีแผนจัดตั้งองค์กร Great British Nuclear และให้เงินสนับสนุนจำนวน  ๑๒๐ ล้านปอนด์ ภายใต้กองทุน Future Nuclear Enabling Fund โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์แบบแยกส่วนขนาดเล็ก (Small Modular Reactor) เพื่อผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ ๘ เครื่อง (๑ เครื่องต่อปี)
          พลังงานลม – เพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมให้ได้มากถึง ๕๐ กิกะวัตต์ ภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ โดย รบ. สอ. จะลดระยะเวลาการพิจารณาเพื่ออนุมัติโครงการฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งแห่งใหม่จาก ๔ ปี เป็น ๑ ปี เป็นต้น
          น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ – รบ. สอ. จะออกใบอนุญาตให้แก่โครงการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในเขตทะเลเหนือที่จะเริ่มดำเนินการในฤดูใบไม้ผลิ เพื่อทดแทนการนำเข้าจาก ตปท.
          พลังงานแสงอาทิตย์ – เพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ๕ เท่าภายในปี ค.ศ ๒๐๓๕ จากปัจจุบันที่สามารถผลิตได้จำนวน ๑๔ กิกะวัตต์ โดย รบ. สอ. วางแผนปรับปรุงกฎระเบียบในการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ
          พลังงานไฮโดรเจน – เพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานไฮโดรเจนซึ่งถือเป็นพลังงานที่มีคาร์บอนต่ำอีกเท่าตัวเป็นจำนวน ๑๐ กิกะวัตต์ภายในปี ค.ศ ๒๐๓๐ เพื่อประโยชน์ด้านพลังงาน การขนส่ง และการให้ความอบอุ่น
          พลังงานความร้อน – จัดตั้งโครงการ Heat Pump Investment Accelerator Competition ในปีนี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ ๓๐ ล้านปอนด์ เพื่อผลิตเครื่องเร่งความร้อนและลดการใช้ก๊าซหุงต้ม
          อนึ่ง แผนข้างต้นถือเป็นการลดการพึ่งพาด้านพลังงานจาก ตปท. ซึ่งมีความผันผวนด้านราคาตามระบบอุปสงค์/อุปทานของโลก เช่น วิกฤตราคาพลังงานในปัจจุบันที่เป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย นอกจากนี้ คาดว่าแผนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มการจ้างงานใน สอ. เช่น ในอุตสาหกรรมฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งทะเล ๙๐,๐๐๐ ตำแหน่ง ภายในปี ค.ศ. ๒๐๒๘ อุตสาหกรรมแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ๑๐,๐๐๐ ตำแหน่ง อุตสาหกรรมพลังงานไฮโดรเจน ๑๒,๐๐๐ ตำแหน่งภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ และเพิ่มการลงทุนของภาคเอกชนประมาณ ๑ แสนล้านปอนด์ในภาคอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งทะเล และสนับสนุนการจ้างงานเพื่อ สวล. จำนวน ๔๘๐,๐๐๐ ตำแหน่งภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐

๓. ทิศทางเศรษฐกิจของ สอ.
    ๓.๑ ปัญหาเงินเฟ้อสูงใน สอ. ทวีความรุนแรงมากขึ้นภายหลังเกิดภาวะสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนโดยข้อมูลจาก สนง. สถิติแห่งชาติของ สอ. (Office for National Statistics - ONS)[9] ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของ สอ. ในเดือน มี.ค. ๖๕ ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ร้อยละ ๗ จากร้อยละ ๖.๒ ในเดือน ก.พ. ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบ ๓๐ ปี โดยมีปัจจัยหลักจากราคาน้ำมันเบนซินในเดือน มี.ค. ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย ๑๒.๖ เพนซ์ต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย ๑๘.๘ เพนซ์ต่อลิตร ในขณะที่ราคาน้ำมันพืชที่ใช้ประกอบอาหารปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๒ เนื่องจากภาวะชะงักงันของอุปทานที่เป็นผลกระทบจากปัญหาสงครามในยูเครน (ยูเครนและรัสเซียเป็น ปท. ผู้ส่งออกน้ำมันดอกทานตะวันหลักของโลก) นอกจากนี้ ข้อมูลจากการสำรวจขององค์กร Retail Economics พบว่าวิกฤตอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ทำให้ภาคครัวเรือนของ สอ. มีรายได้ในเดือน มี.ค. ลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ ๕๒ ปอนด์ ในขณะที่ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำมีรายได้ลดลงร้อยละ ๕.๒ หรือประมาณ ๒๖ ปอนด์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว[10]
    ๓.๒ ปัญหาเงินเฟ้อสูงต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพและแนวโน้มการลดลงของกำลังซื้อภายในประเทศ โดย ONS รายงานว่า ยอดขายของภาคธุรกิจค้าปลีกในเดือน มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ ๓.๑ ซึ่งเริ่มหดตัวลงเมื่อเทียบกับร้อยละ ๖.๗ ในเดือน ก.พ. สะท้อนถึงการที่ภาคครัวเรือนลดการใช้จ่ายลงในขณะที่ข้อมูลการสำรวจของสมาคมธุรกิจค้าปลีก สอ. (British Retail Consortium - BRC) ร่วมกับ บ. KPMG ระบุว่า ยอดขายโดยรวมของ สอ. ลดลงร้อยละ ๐.๔ ในเดือน มี.ค. เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และยอดขายออนไลน์ในส่วนของสินค้าที่ไม่ใช่อาหารลดลงร้อยละ ๒๙ เทียบกับปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๖๔.๗ ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของเดือน เม.ย. จะปรับสูงขึ้นอีกพร้อมกับกำลังซื้อในตลาดที่หดตัวลงโดยมีปัจจัยจากการปรับขึ้นเพดานค่าธรรมเนียมไฟฟ้าและก๊าซหุงต้มที่อัตราโดยเฉลี่ยร้อยละ ๕๔ เมื่อวันที่ ๑ เม.ย. ที่ผ่านมา[11] นอกจากนี้ ONS ได้ประมาณการ ศก. สอ. ในเดือน ก.พ. ว่าขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ ๐.๑ จากเดือนก่อนหน้า โดยภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ ๘๐ ของ ศก. ขยายตัวได้ร้อยละ ๐.๒ แม้ว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาขยายตัวหลังจากยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทาง แต่การบริการด้านสุขภาพหดตัวร้อยละ -๕.๑ สำหรับภาคการผลิตและการก่อสร้างหดตัวร้อยละ -๐.๖ และ -๐.๑ ตามลำดับ ซึ่งนักวิเคราะห์เห็นว่า ศก. สอ. ยังอ่อนไหวและมีแนวโน้มชะลอตัวในระยะต่อไปจากปัญหาอัตราเงินเฟ้อ[12]
    ๓.๓ ปัญหาชะงักงันของภาคการนำเข้าน้ำมันทานตะวันจากรัสเซียและยูเครนซึ่งปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ ๖๐ ของการผลิตทั่วโลกและมีสัดส่วนในตลาดน้ำมันพืชค้าปลีกใน สอ. ประมาณร้อยละ ๔๔ ได้ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ขาดแคลนน้ำมันประกอบอาหาร โดยเฉพาะในภาคร้านอาหารที่มีการใช้จำนวนมาก จึงนำไปสู่ภาวะการกักตุนสินค้าและการโก่งราคาในร้านค้าปลีกรายย่อย ทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ใน สอ. ต่างพยายามบรรเทาสถานการณ์ดังกล่าวโดยการใช้มาตรการชั่วคราวในการจำกัดจำนวนการซื้อน้ำมันพืชทุกประเภทต่อรายแล้ว[13] อย่างไรก็ดี นักเคราะห์ประเมินว่ามาตรการดังกล่าวไม่เพียงพอในระยะยาวเนื่องจากปัญหาการสู้รับระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มยืดเยื้อยาวนานและน่าจะทำให้ราคาน้ำมันพืชสูงขึ้นและค่าอาหารโดยรวมอย่างน้อยร้อยละ ๑๕[14]

[1] https://www.ft.com/content/9aabb19d-5d27-442a-afd6-3bfb94a5730c
[2] https://www.theguardian.com/uk-news/2022/apr/11/heathrow-airport-stretched-amid-busiest-period-since-pandemic-started
[3] https://www.ft.com/content/9c393011-516a-4269-b829-e770515f78c9
[4] https://www.thaitradelondon.com/category/category/news-reports/
[5] https://www.gov.uk/government/news/government-sets-out-plan-to-make-uk-a-global-cryptoasset-technology-hub
[6] https://www.gov.uk/government/speeches/keynote-speech-by-john-glen-economic-secretary-to-the-treasury-at-the-innovate-finance-global-summit
[7] https://www.gov.uk/government/news/major-acceleration-of-homegrown-power-in-britains-plan-for-greater-energy-independence
[8] https://www.gov.uk/government/publications/the-ten-point-plan-for-a-green-industrial-revolution
[9]https://www.ons.gov.uk/economy/inflationandpriceindices/bulletins/consumerpriceinflation/march2022#:~:text=The%20Consumer%20Prices%20Index%20(CPI,of%200.3%25%20in%20March%202021.
[10] https://www.bbc.co.uk/news/uk-61090937
[11] https://www.bbc.co.uk/news/business-61072471
[12] https://www.ons.gov.uk/economy/grossdomesticproductgdp/bulletins/gdpmonthlyestimateuk/february2022
[13] https://www.bbc.co.uk/news/business-61193141
[14] https://www.theguardian.com/business/2022/apr/05/food-price-rises-ukraine-war-cooking-oil