กิจกรรมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๔

กิจกรรมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๔

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ต.ค. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 6,237 view
เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ในโอกาสนี้ พระพรหมวชิรญาณ (พระอาจารย์สุเมโธ) ได้แสดงพระธรรมเทศนาเป็นภาษาอังกฤษในหัวข้อ “สำนึกในคุณความดี” (Gratitude) โดยได้เปิดพระธรรมเทศนาถึงช่วงเวลาที่พระอาจารย์ได้เดินทางไปในประเทศไทยและได้มีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้พระพุทธศาสนาที่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเป็นศิษย์ของหลวงปู่ชา สุภัทโท อันถือเป็น “บุญ” ของท่านที่ได้ไปเรียนรู้สัจธรรมแห่งชีวิตในดินแดนที่พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองด้วยร่มพระบารมี และได้เทศนาถึงแก่นแห่งพระพุทธศาสนา ได้แก่ การทำความเข้าใจกับสาเหตุแห่งความทุกข์และการจัดการกับความรู้สึกดังกล่าว เพื่อหาหนทางดับทุกข์ที่เกิดขึ้น เพราะความทุกข์ที่มนุษย์ประสบนี้ อาจเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อม ความลังเลใจ หรือความกังขาข้องใจในเรื่องต่าง ๆ ในปัจจุบันหลายเรื่องแห่งความทุกข์ก็อาจมาจากสภาวการณ์ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ร่วมกัน อาทิ จากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศ ปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศ หรือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ฯลฯ ซึ่งหนทางในการดับทุกข์ สามารถเริ่มต้นจากการเจริญ “สติ” ด้วยการเฝ้าดูให้เห็นถึงแก่นแท้ของสภาวการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น แล้วพิจารณาสภาวะจิตให้เห็นถึงเหตุความเดือดร้อนรำคาญใจ ไม่ตัดสิน ไม่กล่าวโทษ ทำความเข้าใจให้สามารถยอมรับได้กับสภาพความเป็นจริงที่กำลังเผชิญอยู่ด้วยหลักเหตุผล ซึ่งความสามารถในการเฝ้าดูสภาวะจิตนี้ สามารถฝึกหัดได้โดยการปฏิบัติกรรมฐาน อาทิ การบริกรรมพุทโธ การรักษาจิตเช่นว่านี้จะสามารถช่วยให้จิตใจคลายความวิตกกังวล พ้นจากความลังเลสงสัย และหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ในที่สุด ในพระธรรมเทศนายังได้เอ่ยถึงสังคมพุทธของชาวไทย ซึ่งพระอาจารย์เห็นว่า รากฐานด้านการพระศาสนาที่ได้วางไว้อย่างมั่นคงสืบเนื่องจากรัชกาลก่อนจนถึงปัจจุบัน สังคมไทยมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้วในเรื่องการปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะเรื่องการทำทานและรักษาศีล หากจะสามารถเพิ่มความสำคัญให้กับเรื่องการบำเพ็ญภาวนาขึ้นได้อีก สังคมไทยก็จะเป็นสังคมแห่งความสงบสันติสุขได้ด้วยความสมบูรณ์และแท้จริง
 
1 2   3   4