สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญใน สอ. ในช่วงวันที่ 16 - 31 ม.ค. 2565

สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญใน สอ. ในช่วงวันที่ 16 - 31 ม.ค. 2565

วันที่นำเข้าข้อมูล 14 ก.พ. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 7,714 view

๑. ความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของ สอ.

    ๑.๑ ธุรกิจค้าปลีก บ. AB Foods (ABF) ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการ Primark  Ovaltine และ Twinings ใน สอ. ประกาศแผนเลิกจ้าง พนง. ของ Primark จำนวน ๔๐๐ ตำแหน่งจาก ๒๙,๐๐๐ ตำแหน่งที่มีในปัจจุบัน (จาก ๑๙๑ สาขา) เพื่อลดต้นทุนธุรกิจและสร้างความยืดหยุ่นทางการบริหาร โดยบริษัทให้ข้อมูลว่าปัจจัยจากการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ สายพันธุ์โอไมครอนทำให้ ปชช. หลีกเลี่ยงการจับจ่ายสินค้าในห้างและทำให้ยอดขายของ Primark ในช่วง ๑๖ สัปดาห์จนถึงวันที่ ๘ ม.ค. ๖๕ ลดลงร้อยละ ๑๐ เทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๖๓ (ยังมากกว่าในช่วงเดียวกัน ของปีที่ ๖๔ ที่อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์คิดเป็นร้อยละ ๓๖) แต่ปัจจัยจากปัญหาต้นทุนพลังงาน การขนส่ง และวัตถุดิบ ที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างต้นทุนธุรกิจและอาจปรับขึ้นราคาสินค้าในส่วนของธุรกิจอาหารและการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับหลายบริษัทคู่แข่ง เช่น บ. Next ประกาศปรับขึ้นราคาสินค้าร้อยละ ๓.๗ ในช่วงครึ่งแรกของปีและร้อยละ ๖ ในช่วงครึ่งหลังของปี และล่าสุด บ. Superdry ได้ประกาศปรับขึ้นราคาสินค้าในอัตราร้อยละ ๒ และจำกัดการลดราคา สินค้าเฉพาะที่จำหน่ายบนเว็บไซต์เท่านั้น อย่างไรก็ดี Primark ยังคงรักษาราคาสินค้าประเภทแฟชันไว้ในระดับเดิม สำหรับการจำหน่ายในช่วง Spring/Summer ปีนี้เนื่องจากปัจจัยด้านราคาเป็นจุดขายของ Primark ซึ่งทำให้บริษัทต้อง ตัดสินใจลดต้นทุนด้วยการลดการจ้าง พนง. แทน1
    ๑.๒ ไปรษณีย์ บ. Royal Mail ประกาศแผนเลิกจ้าง พนง. ในฝ่ายบริหารจำนวน ๗๐๐ ตำแหน่ง เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจและลดต้นทุนของบริษัทซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนได้ประมาณ ๔๐ ล้านปอนด์ต่อปี แต่จะมี ค่าใช้จ่ายในการชดเชยให้แก่ พนง. ที่ถูกเลิกจ้างประมาณ ๗๐ ล้านปอนด์ในปีนี้ แต่ Royal Mail ยังคงมีผลประกอบการ ที่เป็นกำไรมากกว่า ๔๓๐ ล้านปอนด์ในปี ๖๔ (ถือว่ามีกำไรลดลงกว่าในปี ๖๓ ซึ่งเป็นช่วงสูงสุดของวิกฤตโควิด-๑๙ ที่ Royal Mail มียอดการให้บริการสูงที่สุดในรอบหลายสิบปี) ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าการปรับโครงสร้างดังกล่าวจำเป็นต่อ การรับมือกระแสต้นทุนการขนส่งและพลังงานที่สูงขึ้น ในขณะที่มีแนวโน้มว่ายอดการใช้บริการจะลดลงในปีนี้หลังจากที่การ ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนไม่ได้รุนแรงและ สอ. สามารถหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ได้ ทำให้ ปชช. ให้ความนิยมการซื้อ สินค้าด้วยตนเองตามปกติมากขึ้นสะท้อนจากปริมาณพัสดุที่บริษัทจัดส่งภายใน สอ. ในช่วง ต.ค. - ธ.ค. ๖๔ มีจำนวนต่ำกว่า ช่วงเดียวกันของปี ๖๓ ร้อยละ ๗ และผลประกอบการโดยรวมในช่วงดังกล่าวลดลงร้อยละ ๒.๔ กอปรกับการมีค่าใช้จ่าย เพิ่มเติมกรณี พนง. เจ็บป่วยและกักตนเองในช่วงการระบาดระลอกที่ผ่านมาทั้งจากการจ่ายเงินชดเชยและค่าล่วงเวลาเพื่อ บรรเทาการขาดแคลน พนง. และการล่าช้าของการบริการ ซึ่ง Royal Mail ได้รับข้อร้องเรียนงานบริการมากขึ้นหลายเท่าตัว ในช่วงปลายปี ๖๔2
    ๑.๓ รถยนต์ บ. Bentley ประกาศขยายการลงทุนมูลค่า ๒.๕ พันล้านปอนด์ เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่ศูนย์ผลิตรถยนต์ในเมือง Crewe ของอังกฤษ โดยบริษัทมีแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกภายใน ๓ ปีข้างหน้านี้ และจะ ปรับเปลี่ยนการผลิตรถยนต์เป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกของ รบ. สอ. ที่ห้ามจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๓๐ เป็นต้นไป3 นอกจากนี้ บ. Britishvolt ให้ข้อมูลว่า บริษัทได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวน ๑.๗ พันล้านปอนด์จาก บ. Tritax Group และ บ. Abrdn และเงินจำนวน ๑๐๐ ล้านปอนด์ ภายใต้โครงการ Automotive Transformation Fund4 ของ รบ. สอ. เพื่อสร้างศูนย์ผลิตแบตเตอรีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ (gigafactory) ที่เมือง Blyth ในภาค ตอ. เฉียงเหนือของ อังกฤษ บนพื้นที่ของโรงงานผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเดิม (Blyth Power Station) ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถผลิต แบตเตอรีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ คันต่อปี และเพิ่มการจ้างงานประมาณ ๓,๐๐๐ ตำแหน่งที่ศูนย์การผลิต และอีก ๕,๐๐๐ ตำแหน่งภายในเขตท้องถิ่นใกล้เคียง5 โดย นรม. Boris Johnson แสดงความเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะ ช่วยกระตุ้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใน สอ. และเพิ่มโอกาสการจ้างงานโดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ทักษะระดับสูงหลายพัน ตำแหน่งมาสู่ชุมชนในเขตอุตสาหกรรมของอังกฤษ รวมถึงบทบาทของ สอ. ในฐานะผู้นำการปฏิวัติอุตสาหกรรมเพื่อ สวล. ระดับโลกด้วย ทั้งนี้ Britishvolt ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางการค้ากับบริษัทรถยนต์หลายแห่งแล้ว เช่น บ. Lotus / บ. Tevva / บ. Lion และบริษัทผลิตเครื่องบิน Bombardier เป็นต้น ทั้งนี้ พัฒนาการดังกล่าวสะท้อนว่า กระแสการปฏิวัติอุตสาหกรรมสีเขียวของ สอ. ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องในช่วงวิกฤตโควิด-๑๙ และเป็นหนึ่งในแนวทางหลัก ของ รบ. สอ. ในวาระการฟื้นฟูโลกให้ดีขึ้น Build Back Better World (B3W) Programme โดยร่วมมือกับภาคเอกชน สอ.
    ๑.๔ การขนส่งสินค้า รปท. เมื่อวันที่ ๑ ม.ค. ๖๕ สอ. เริ่มบังคับใช้กฎระเบียบการนำเข้าส่งออกสินค้า ระหว่าง สอ. และ EU อย่างสมบูรณ์6 โดยบริษัทขนส่งต้องลงทะเบียนยานพาหนะที่ใช้ขนส่งสินค้า ข้อมูลสินค้า และเอกสาร ด้านศุลกากรในระบบ Goods Vehicle Movement Service (GVMS) ของ รบ. สอ. ล่วงหน้า7 (ก่อนหน้านี้บริษัทสามารถ ส่งเอกสารดังกล่าวได้ภายใน ๖๐ วันหลังจากการส่งออกสินค้า) ทั้งนี้ องค์กร Logistics UK ให้ความเห็นว่า ปัจจัยจาก ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารที่เพิ่มขึ้นที่ด่านท่าเรือ Dover ของ สอ. กอปรกับปริมาณการนำเข้าส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการชะงักงันที่ด่านตรวจสินค้า ส่งผลให้เกิดคิวสะสมของรถขนส่งสินค้าเป็นเวลาหลาย ชม. ในช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ รบ. สอ. ได้เริ่มการตรวจสอบใบรับรองสุขอนามัยสินค้าประเภทสัตว์ เนื้อสัตว์ และพันธุ์พืชเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ ๑ ก.ค. ๖๕8 ซึ่งคาดว่าอาจทำให้เกิดการชะงักงันเพิ่มขึ้นอีก โดยข้อมูลจาก สนง. สถิติของเยอรมนี (Federal Statistical Office - Destatis) ระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค. - พ.ย. ๖๔ เยอรมนีส่งออกสินค้ามายัง สอ. ลดลงจากปี ๖๔ ร้อยละ ๒.๕ และนำเข้าสินค้าจาก สอ. ลดลงร้อยละ ๗.๗ ซึ่งมีปัจจัยจาก Brexit ในขณะที่ยอดการส่งออกสินค้าของเยอรมนี ไปยัง EU และ สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๗ และร้อยละ ๑๘ ตามลำดับ9
          อนึ่ง ข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าผลกระทบเชิงลบจาก Brexit ต่อ สอ. และ EU ได้เริ่ม ปรากฏให้เห็นชัดแล้วโดยทำให้ต้นทุนการค้าเพิ่มขึ้นและสูญเสียโอกาสการค้าระหว่างกัน แม้ว่าในขณะนี้สถานการณ์ที่ ด่านท่าเรือ สอ. กับ EU ทางตอนใต้จะคลี่คลายลงบางส่วนแต่ยังคงมีคิวสะสมต่อเนื่องเนื่องจากกระบวนการต่าง ๆ ที่ใช้เวลา มากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่การเจรจาแก้ไขพิธีสารไอร์แลนด์เหนือเพื่อคลี่คลายปัญหาอุปสรรคการค้าระหว่าง สอ. กับ EU ที่เป็นผลมาจากการปฏิบัติตามพิธีสารฯ ยังคงไม่มีความคืบหน้ามากนัก

๒. ทิศทางเศรษฐกิจของ สอ.

    ๒.๑ ข้อมูลจาก สนง. สถิติแห่งชาติ (Office for National Statistics – ONS)10 ระบุว่า ดัชนผู้บริโภค (Consumer Prices Index – CPI) ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ ๕.๔ ในเดือน ธ.ค. ๖๔ จากร้อยละ ๕.๑ ในเดือน พ.ย. ๖๔ ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบเกือบ ๓๐ ปีของ สอ. โดยมีปัจจัยจากค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม รวมถึงราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ Ofgem ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมราคาพลังงานและก๊าซหุงต้ม สำหรับครัวเรือนของ สอ. มีแผนปรับขึ้นเพดานราคาดังกล่าวประมาณร้อยละ ๕๐ ในเดือน เม.ย. ศกนี้ เนื่องจากต้นทุน ที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดพลังงานโลก โดยธนาคารกลางของอังกฤษ (Bank of England – BoE) คาดการณ์ว่าปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่สูงสุดที่ร้อยละ ๗ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ รายงานอีกฉบับของ ONS11 ระบุว่า อัตราค่าจ้างโดยรวมในช่วงหนึ่งปีจนถึง พ.ย. ๖๔ ของ สอ. ปรับตัวสูงขึ้นแต่ไม่ได้สัดส่วนกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่ม สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเมื่อคำนวณอัตราค่าจ้างร่วมกับอัตราค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตราค่าจ้างโดยเฉลี่ยต่อ สัปดาห์ของเดือน พ.ย. ๖๔ ปรับตัวลดลงร้อยละ ๑ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นครั้งแรกที่อัตราค่าจ้าง ปรับตัวลดลงนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ๖๓
    ๒.๒ แม้ว่า สอ. จะไม่ได้อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์ แต่มาตรการควบคุมโรคระบาดที่ใช้ (Plan B) กอปรกับสถิติการติดเชื้อรายวันที่สูงตลอดช่วง ๑ - ๒ เดือนที่ผ่านมา ส่งผลทางจิตวิทยาให้ผู้บริโภคลดความถี่ในการ บริโภคนอกบ้าน รายงานของ ONS12 ระบุว่า ยอดขายโดยรวมของภาคธุรกิจค้าปลีกของ สอ. ประจำเดือน ธ.ค. ๖๔ ปรับตัวลดลงร้อยละ ๓.๗ เทียบกับเดือน พ.ย. โดยยอดขายของร้านจำหน่ายสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (non-food stores) ปรับตัวลดลงมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ ๗.๑ โดยเฉพาะร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์การกีฬาลดลงร้อยละ ๘ ห้างสรรพสินค้าลดลงร้อยละ ๖ และร้านเฟอร์นิเจอร์ลดลงร้อยละ ๓ ในขณะที่ยอดขายน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ ลดลงร้อยละ ๔.๗ เนื่องจาก ปชช. ทำงานที่บ้านมากขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่ายอดขายที่ลดลงดังกล่าวอาจมีปัจจัย ส่วนหนึ่งจากการที่ ปชช. ต้องการลดค่าใช้จ่ายเนื่องจากรู้สึกกังวลกับค่าครองชีพ ราคาอาหาร และค่าไฟและก๊าซหุงต้ม ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับรายงานการสำรวจความมั่นใจของผู้บริโภคใน สอ. ที่จัดทำโดย บ. Gfk ระหว่างวันที่ ๔ - ๑๒ ม.ค. ๖๕13 พบว่า ดัชนีความมั่นใจของผู้บริโภคใน สอ. ปรับลดลง ๔ จุดมาอยู่ที่ระดับ -๑๙ ถือเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ เดือน ก.พ. ๖๔ และข้อมูลการสำรวจของ บ. KPMG UK ที่ระบุว่า ๑ ใน ๓ ของผู้ที่ทำแบบสำรวจวางแผนที่จะใช้จ่าย อย่างระมัดระวังมากขึ้นในปีนี้เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น14
    ๒.๓ เมื่อวันที่ ๒๕ ม.ค. ๖๕ IMF เผยแพร่รายงานการประเมินการเติบโตทาง ศก. ฉบับล่าสุด15 ระบุว่า ศก. ของโลกโดยรวมในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ ๔.๔ ลดลงจากปีที่แล้วที่ขยายตัวร้อยละ ๕.๙ และต่ำกว่า ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ต.ค. ๖๔ ร้อยละ ๐.๕ ซึ่งมีปัจจัยจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์โอไมครอนและ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น โดย IMF คาดว่า ศก. สอ. จะขยายตัวรวดเร็วที่สุดใน ปท. กลุ่ม G7 ในอัตราร้อยละ ๔.๗ (ต่ำกว่า การคาดการณ์เดิมร้อยละ ๐.๓) ในขณะที่ ศก. ของสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าการคาดการณ์เดิมมากที่สุด มาอยู่ที่ร้อยละ ๔ (เดิมที่ร้อยละ ๕.๒) และร้อยละ ๔.๘ (เดิมที่ร้อยละ ๕.๖) ตามลำดับ โดยสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจาก ปัจจัยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย ในขณะที่จีนได้รับผลกระทบจากปัจจัยจากการหดตัวของภาค อสังหาริมทรัพย์ของจีนกอปรกับการจับจ่ายใช้สอยของภาคครัวเรือนที่ฟื้นตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ ทั้งนี้ รายงานดังกล่าว สะท้อนถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนต่อการฟื้นตัวของ ศก. โลก และเรียกร้องให้ทุกประเทศ เห็นความสำคัญของมาตรการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ การอำนวยความสะดวกการเข้าถึงชุดตรวจหาเชื้อ และการ ได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกันในทุกประเทศทั่วโลกเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อ ไวรัสโควิด-๑๙ สายพันธุ์ใหม่ในอนาคต

 

1 https://www.bbc.co.uk/news/business-60066428
2 https://www.thetimes.co.uk/article/royal-mail-lay-offs-to-deliver-40m-annual-savings-vd6ztw3gx
3 https://www.bbc.co.uk/news/uk-england-60138564
4 https://www.apcuk.co.uk/automotive-transformation-fund/
5 https://www.telegraph.co.uk/business/2022/01/21/britishvolt-wins-18bn-build-uk-gigafactory/
6 https://www.gov.uk/government/publications/goods-leaving-great-britain-from-1-january-2022-at-ports-using-gvms-cip- 1#:~:text=From%201%20January%202022%2C%20exports,further%20physical%20checks%20are%20required
7 https://www.gov.uk/guidance/register-for-the-goods-vehicle-movement- service?utm_campaign=transition_p6&utm_medium=cpc&utm_source=seg&utm_content=ukb_hauluk act161&utm_term=&gclid=CjwKCAiA5t-OBhByEiwAhR- hm6IHPNNXb9PFILE4eh0cov4w_Ezx1c7sr4Iz8JTEkBdb8iMu-z_wbhoC8OsQAvD_BwE&gclsrc=aw.ds

8 https://www.gov.uk/government/news/less-than-a-month-until-full-customs-controls-are-introduced#further-changes-from-1-July-2022
9 https://www.bbc.co.uk/news/business-60161094
10 https://www.ons.gov.uk/economy/inflationandpriceindices/bulletins/consumerpriceinflation/december2021?
11https://www.ons.gov.uk/employmentandlabourmarket/peopleinwork/employmentandemployeetypes/bulletins/averageweeklyearningsingreatbritain/january2022